รองโฆษกตร. เคลื่อนไหวแล้ว หลังเยาวชนปลดแอก ก่อม็อบไล่รัฐบาล

รองโฆษกตร. เคลื่อนไหวแล้ว หลังเยาวชนปลดแอก ก่อม็อบไล่รัฐบาล

จากที่เพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก Free YOUTH” ได้โพสต์เชิญชวนประชาชนออกมาชุมนุมเพื่อถอนรากเผด็จกๅร ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็น วันที่ 18 กรกฎาคม 63 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้มีประชาชนที่สนใจเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาดูแล แต่เมื่อการชุมนุมปราศรัยดำเนินไปสักระยะ กลับปรากฎว่า มีการดันรั้วเขตแนว ระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่จนเกิดความวุ่นวาย

กระทั่ง เวลา 17.07 น. กลุ่มเยาวชนปลดแอกฝ่าแนวกั้นตำรวจ ปิดถ.ราชดำเนิน ฝั่งมุ่งหน้าสะพานผ่านฟ้าฯแล้ว รวมทั้งมีรายงานว่าเกิดการปะทะกันระหว่าง กลุ่มนักศึกษากับจนท. บริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อจนท.เอารั้วมาวางกั้น ไม่ให้กลุ่มนักศึกษาเข้าไปที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีการเปิดเครื่องกระจายเสียงรบกวน

อย่างไรก็ตาม หลังจากผลักดันกันสักระยะหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ยอมล่าถอย เอารั้วออกจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีกลุ่มนักศึกษาและประชาชนหลายร้อยคนเข้าไปในบริเวณพื้นที่จนเริ่มเติม รวมถึงมีการปิดจราจรโดยรอบแล้ว

ล่าสุด ทางด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร.กล่าวถึง กรณีกลุ่มเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH และกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นำโดย นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการกลุ่มเยาวชนปลดแอก นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธาน สนท.จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางเมือง ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มีความเป็นห่วงกลุ่มบุคคลและเยาวชนที่จะออกมาแสดงความเคลื่อนไหวในบริเวณดังกล่าว โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กำกับดูแลความสงบเรียบร้อย ตลอดจนการกระทำที่เป็นความผิดต่อกฎหมาย พร้อมเน้นย้ำจนท.ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย โดยยึดหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กัน

สำหรับการแสดงออกทางการเมืองนั้น สามารถกระทำได้ หากมีความคิดเห็นที่แตกต่างแต่ต้องกระทำโดยไม่ขัดต่อกฎหมๅย หรือไปละเมิดกระทบสิทธิผู้อื่น โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่อยู่ภายใต้การประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคcovid-19 รวมถึงการแสดงพฤติกรรม การแสดงความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ ในลักษณะที่หยาบคาย ก้าวร้าว สร้างความเกลียดชัง ใส่ร้ายป้ายสีผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นสิ่งที่ไม่ดีและไม่สมควรกระทำ เพราะเข้าข่ายความผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองได้

รองโฆษกตร. กล่าวอีกว่า ฝากเตือนไปยังเยาวชนที่จะออกมาจัดกิจกรรมในครั้งนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก ประกอบกับการกระทำที่เป็นความผิดต่อกฎหมายต่างๆและการฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอให้ปฎิบัติตามประกาศข้อกำหนด และมาตรการป้องกันการแพร่ระบๅดของcovidจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้ประเทศไทยกลับมาสู่ภาวะปกติผ่านพ้นช่วงเวลาที่วิกฤตไปได้ในเร็ววัน.

หอยนางรม


Share