นายกฯ แถลงมีงบแจกเงิน 5 พัน แค่เดือนเดียว ที่เหลือรอกู้เพิ่ม “ขอโทษที่ไม่ทั่วถึง”

นายกฯ แถลงมีงบแจกเงิน 5 พัน แค่เดือนเดียว ที่เหลือรอกู้เพิ่ม “ขอโทษที่ไม่ทั่วถึง”

วันที่ 15 เมษายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เป็นที่น่ายินดีว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทยอยลดลงตามลำดับ หลายวันที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดให้รัฐบาล โดยศูนย์โควิด – 19 พิจารณาตามหลักเกณฑ์สาธารณสุขอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการปรนอะไรได้หรือไม่ แต่ขณะนี้ขอเวลาอีกสักนิดหนึ่งก่อน เพราะต้องระมัดระวัง ยังมีมีความเสี่ยงสูงที่จะมาชุมนุมต่าง ๆ

ทั้งนี้ เรื่องการผ่อนปรนได้ให้หน่วยงานต่างๆ ไปเตรียมการไว้แล้ว ถ้าดีขึ้นจริงจะลดมาตรการได้อย่างไร ถ้ายังไม่ดีขึ้นจะเพิ่มความเข้มงวดได้อย่างไร แต่ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น ยังจำเป็นต้องขอความร่วมมือภาคประชาชนทุกคน ทุกภาคส่วน

“ผมทราบดีว่าประชาชนเดือดร้อน ท่านร้อนใจผมยิ่งร้อนใจมากกว่าท่าน เพราะผมเป็นรัฐบาลที่ต้องดูท่าน ขอให้เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน จะประเมินอีกครั้งในช่วงสุดท้ายสิ้นเดือน เม.ย. ขณะนี้กำลังหามาตรการที่เหมาะสม หาหนทางที่ดีที่สุด หากมีการผ่อนปรนเหล่านี้ก็ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ทำทีเดียวทั้งหมดจะทำให้เกิดปัญหา เพราะบางพื้นที่มีการแพร่ระบาดอยู่ ในกทม. ปริมณฑล ภาคใต้ ต้องมีการป้องกันระบาดใหม่ในทุกมิติ ทุกกิจการ ต้องเตรียมความพร้อมของท่านไว้ด้วย ต้องแสดงให้เห็นว่ามีความพร้อมอย่างไร ถ้าเปิดกิจการแล้วมีมาตรการในการดูแลอย่างไร ใช้เจลแอลกอฮอล์ ตรวจเข้าออก และปริมาณคนเข้ามาในพื้นที่ในหลาย ๆ กิจการ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

#เงิน5000บาท #COVID19 #COVID19 #โควิด19 #coronavirus

รอ ศบค.ประเมินต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่จะครบกำหนด 26 ม.ย.นี้ จะอยู่ในการประเมิน ศบค.เอามาคิด วิเคราะห์ ชั่งน้ำหนักในหลายๆ ด้าน แม้สถานการณ์ในขณะนี้จะลดลงบ้างในบางจังหวะ บางช่วง หมายความว่าเราอาจป้องกันการแพร่ระบาดได้ดี แต่หากเราขาดความร่วมมือ หย่อนวินัย หย่อนความเข้มงวดลงไปโรคระบาดก็จะกลับมาได้อีก หลายประเทศก็เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน พรก.ฉุกเฉินนั้นทราบดีว่ามีผลกระทบ มีความเดือดร้อน รับบาลต้องหามาตรการมาทดแทน หรือหมาตรการอื่นๆ ต้องขอให้เข้าใจด้วย

กังวลร้านทองขาดสภาพคล่อง เพราะคนแห่ขาย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือเยียวยาตามมาตรการของรัฐ เราต้องคำนึงถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม ช่วงแรกเราดำเนินการช่วยเหลือตามลำดับผ่านหลายมาตรการทั้ง ระยะที่ 1 และ 2 เช่น การลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน ลดค่าน้ำค่าไฟ คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า จำนวนหน่วยการใช้ไฟฟ้าฟรี กำหนดให้ผู้ป่วยโควิด-19 รักษาฟรี การพักหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งอาจมีปัญหาอยู่บ้างบางธนาคาร ขณะนี้กำลังนำสู่การแก้ปัญหา การขยายเวลาการชำระหนี้ หรือลูกหนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ วันนี้มีกลไกใช้งบประมาณปกติ ประจำปี งบกลาง มาตรการทางภาษี มาตรการทางการเงินผ่านทางธนาคารของรัฐ และระบบประกันสังคม ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ เข้าใจถึงเหตุผลความจำเป็นว่าเป็นเงินที่ประชาชนฝากไว้กับธนาคารของท่าน แต่ต้องดูว่าจะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไร เพราะเป็นระบบการเงินการคลังของประเทศ เป็นห่วงโซ่เดียวกันทั้งหมด จะพาเสียหายไปทั้งหมด

“วันนี้เป็นกังวลการขายทอง ยามขาดแคลนก็เอามาขายคืน มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องของร้านทอง กำลังหารือว่าจะหารือกันจะทำอย่างไร ถ้ายังไม่จำเป็นก็ทยอย อย่าขายทีเดียวทั้งหมด ถ้าร้านทองไม่มีเงินจ่ายขึ้นมาก็มีปัญหา เงินที่เยียวยาประชาชนจะลดลงไป เพราะไปใช้อย่างอื่น ขอให้เข้าใจด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ตั้งคณะกรรมตรวจสอบให้เยียวยาทั่วถึง

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับเงินเยียวยาชดเชยรายได้ที่หายไป 5 พันบาทต่อเดือน ตนทราบดีว่ามีความสับสนอลหม่านกันอยู่ พอสมควร เห็นจากการที่ประชาชนเดินทางไปยังกระทรวงการคลัง แต่จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจกันใหม่ ให้เข้าใจตรงกัน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม ทั่วถึงและเป็นธรรม เราได้พิจารณาจากฐานข้อมูลแรงงาน 37 ล้านคนในระบบแรงงาน ประกอบด้วย อาชีพอิสระ แรงงานนอกระบบ 9 ล้านคน แรงงานในระบบ 11 ล้านคน เกษตรกร 17 ล้านคน นักศึกษาที่ทำงานหรือไม่ทำงานก็ต้องพิจารณา เพราะกฎหมายก็เป็นกฎหมาย การใช้เงินตรงไหนต้องมีการตรวจสอบทุกอัน ไม่อยากให้รัฐบาลต้องมีข้อผิดพลาด

อย่างไรก็ตาม ตนรับฟังความเดือดร้อนของท่านเสมอทุกวัน ตนเห็นแล้วก็เห็นใจ สงสาร แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำให้ท่าน ตนร้อนใจมากกว่าท่าน นอกจากนี้ มีการคณะกรรมการกำกับดูแล เพื่อติดตาม รวบรวม บูรณาการข้อมูล เกี่ยวกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ รับฟังความคิดเห็น ตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาให้มีความครอบคลุมทั่วถึง จัดทำข้อเสนอแนะกลไกและขั้นตอนการดำเนินการให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือและเยียวยาได้อย่างแท้จริง

รอเงินกู้ ตอนนี้มีจ่ายเยียวยาแค่เดือนเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราจำเป็นต้องใช้เงินหลายส่วน ส่วนแรก พ.ร.บ.ปรับโอนงบประมาณ 2563 ใช้เวลาพอสมควร ต้องเข้าการพิจารณาของ ส.ส. และ ส.ว.พิจารณา ใช้เวลา มิ.ย.ถึงจะได้ใช้เงิน โดยคาดว่าจะไม่เกิน 1 แสนล้านบาท ส่วนที่สองเงินที่จะได้จากการกู้เงินผ่าน พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้าน ตรงนี้ยังไม่มีเงินสักบาท ต้องกูเงินออกมาให้เป็นเม็ดเงิน เพื่อจะได้เอามาเยียวยาได้ กราบเรียนว่ายังไม่มีเลย มีแต่ตัวเลข หลายคนเอาตัวเลขมาหารแบ่งเรียบร้อยแล้ว อีกส่วน พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นเรื่องของการบริหารของระบบการเงินการคลังของ ธปท.เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย สับสน เกิดความไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลถึงกระตลาดหุ้น ไปกันหมด แล้วยึดโยงธนาคารด้วย ดังนั้น ต้องเข้าใจทั้ง 3 ส่วน

ในส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท จะมีขั้นตอนและรอประกาศใช้ ประมาณปลาย เม.ย.หรือ พ.ค. โดยการใช้เงินต้องผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ ตามขั้นตอนกฎหมายร่าง พ.ร.ก.ดังกล่าว จะใช้เงินได้ประมาณ พ.ค.หรือ มิ.ย.จึงย้อนกลับมาที่วันนี้ใช้เงินจากงบกลางของปี 63 และบางโครงการที่ไม่ได้ดำเนินการ เอาคืนมาช่วยในช่วงนี้ก่อน มีวงเงินประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมการเยียวยา 5 พันบาท แค่เดือนเดียวนะครับ เดือนที่สองที่สาม ต้องรอ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน

ดังนั้น จึงเป็นความยากง่ายรัฐบาล เพราะเงินเหล่านี้ผูกพันไปยังรัฐบาลข้างหน้า ต้องหาเม็ดเงินมาชำระหนี้ ดังนั้น การกู้เงินทยอยกู้เป็นก้อนๆ ไม่ได้หมายความว่ามี 1 ล้านล้าน มาอยู่ในมือทั้งหมดทีเดียว อย่างไรก็ไม่ทันเดือน เม.ย.อยู่แล้ว วันนี้จ่ายได้แค่ดือนเดียวก่อนขณะนี้ ส่วนที่ขาดเหลือให้ตรวจสอบคัดกรองดูว่าขาดเหลือตรงไหน ตรงไหนที่ควรให้เพิ่ม หรือมีปัญหาที่ระบบตรวจสอบคัดกรองออกไป

“ผมยืนยันพยายามดูแลท่านอย่างเต็มที่ตามขีดความสามารถที่รัฐมีอยู่ ดังนั้น ขอให้ทุกคนเข้าใจ การบิดเบือนทางที่ผิด ทำให้การทำงานยากขึ้นเรื่อยๆ กราบเรียนย้ำอีกครั้ง เรามีเม็ดเงินที่จะดูแลเดือนเดียวเท่านั้นก่อน ที่เหลือต้องรอ พ.ร.ก.และพ.ร.บ.ที่จะออกมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในระหว่างที่ยังต้องรอเงินกู้ จะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือกลุ่มต่างๆ เช่น อาชีพอิสระ รับจ้าง กิจการส่วนตัว ค้าขาย แรงงานมาตรา 39 และ 40 จำนวน 9 ล้านคน ตอนแรกที่ยังไม่มีการปรับงบประมาณ มีเม็ดเงินให้แค่ 3 ล้านคนเท่านั้น ไม่ได้เป็นโควตา แต่ดูเม็ดเงินว่าจะจ่ายได้แค่ 5 พันบาทต่อคน เมื่อรับฟังจากประชาชนว่ามีว่ามีความเดือดร้อนอยู่หลายกลุ่ม จึงต้องขยายมาเป็น 9 ล้านคน ต้องดูว่าจะหาเงินตรงไหนมาให้ จากงบกลาง เงินรายจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน 4.5 หมื่นล้าน หลังจาก เม.ย.ต้องรอ พ.ร.ก.ไปแล้วถึงจะมีเม็ดเงินก้อนใหม่ออกมา จึงต้องดูว่าเดือนที่ 2 – 3 พอหรือไม่ จะให้กันอย่างไร แต่จะดูแลให้ครบทุกคน

“ตนก็เป็นห่วง มีบางคนที่หาประโยชน์ จากคนที่ลำบากยากจนอยู่แล้ว ต้องไปจ้างคนส่งข้อมูลให้กระทรวงการคลังคัดกรอง เพราะยังทำไม่เป็น เสียเงิน 1 พันบาท กู้หนี้ยืมสินให้คนพวกนี้ที่ลงทะเบียนให้ ปรากฏว่าไม่ผ่านการคัดกรอง เท่ากับเสียเงินไป 1 พัน แล้วยังไม่ได้เงิน 5 พันก็ยังไม่ได้อีก คนที่มาแสวงประโยชน์เหล่านี้ผมถือว่าน่ารังเกียจ อีกส่วนหนึ่งที่จับกุมแล้วคือ มีการปลอมใบแพทย์เพื่อจะได้รับประโยชน์จากเงินประกัน คนเหล่านี้ผมไม่คิดว่าจะยังมีอยู่ในประเทศไทย แต่ก็ยังมีอีกเยอะ นายทุน เงินกู้ ในเมื่อรัฐบาลมีมาตรการก็ควรจะช่วยรัฐบาลบ้าง ผมใช้มาตรการกฎหมายเต็มที่ ท่านต้องผ่อนสั้นผ่อนยาวให้กับลูกหนี้ของท่านด้วย เขาไม่มีเงินผ่อนหรอกครับ จะแสวงประโยชน์จากความทุกข์ทรมานแสนสาหัสของประชาชนจะมีความสุขหรือ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

สั่งกระทรวงแรงงานหาเงินเพิ่ม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนแรงงานในระบบประกันสังคมที่มารายได้ประจำ 11 ล้านคน ใช้กองทุนประกันสังคม 2.3 แสนล้านบาท มีการปลดล็อกต่างๆ พอสมควร เราต้องหามาตรการมาช่วยเหลือ กระทรวงแรงงานจำเป็นต้องหาเม็ดเงินมาเพิ่ม เป็นเรื่องการบริหารกองทุนประกันสังคม ขออย่าให้ว่ากันไปว่ากันมาเพราะเงินจำนวนนี้ ทำให้แรงงานดำรงชีวิตอยู่ได้ อะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็เข้าใจกันบ้าง รัฐบาลดูแลอยู่แล้ว
ส่วนเกษตรกร 17 ล้านคน กำลังพิจารณาหาเงินจากแหล่งอื่นตามกฎหมายงบประมาณ กฎหมายวินัยการเงินการคลัง มาให้เกษตรกรในเดือนแรก ส่วนเดือนถัดไปต้องรอเงินกู้ ทุกอย่างทำได้แค่ 1 เดือน ที่เหลือต้องรอ พ.ร.ก.เงินกู้ ถึงจะดูระยะที่สองสามสี่ บางทีพูดเกินเลย 3 เดือนบ้าง ยังไม่ข้อยุติ หลายคนก็อยากช่วยประชาชน ผมก็ขอร้องให้ทำความเข้าใจ วันนี้ผพูดในฐานะหัวหน้ารัฐบาล การให้เงินเยียวยาเหล่านี้ต้องประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง

เห็นใจคนไทย คิดช่วยทั้งวันทั้งคืน

ทั้งนี้ ในส่วนมาตรการอื่นๆ ให้กระทรวงการคลังไปรับฟังความคิดเห็น หรือเอาโครงการจากทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงมาเพื่อพิจารณามาตรการเยียวยา แต่ทุกคนต้องประคับประคองตัวเองในช่วงนี้ อะไรที่รัฐบาลดูแลได้ก็จะดูแลให้มากที่สุด ตนเห็นใจจริงๆ คิดทั้งวันทั้งคืน เวลามีปัญหา เห็นในสื่อโทรทัศน์ สื่อโซเชียล ผมได้ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ

“ไม่ใช่ว่าไม่ได้รับการเยียวยา ขอให้ทุกคนเข้าใจถึงระเบียบกฎหมายในการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐด้วย รัฐบาลจะต้องรอบคอบ ระมัดระวังที่สุด ไม่ใช่ว่าวันข้างหน้า หลายคนจ้องอยู่แล้วว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดี คิดอย่างนั้น แสดงว่าไม่เห็นประโยชน์ส่วนรวม แต่ยืนยันว่าทุกอย่างที่ผมทำจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมายวิธีการงบประมาณทุกประการทุกกฎหมายที่มีอยู่ ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ อย่าไปประท้วงเลย ฟังสักนิด

แนะทำบัญชีหนี้สิน 5 พันพอช่วยได้บ้าง

ช่วงนี้ลำบากทุกคน ถ้าเรามีเงินเยอะๆ เราสามารถให้ท่านได้ทุกคน แต่มันทำไม่ได้ ถ้าท่านดูแลตัวเอง ใช้จ่ายอย่างเกิดประโยชน์สูงสุดในครอบครัว ได้ 5 พันพอจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าได้เงิน 5 พันไปใช้อย่างอื่น เห็นในโทรทัศน์ เจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดี กินเหล้า สุรา ดื่มน้ำกระท่อม เล่นการพนัน เวลายามยากยังทำอย่างนี้กันอยู่เลย ทั้งที่เวลานี้ควรอยู่กับครอบครัวที่บ้าน สร้างความอบอุ่นในบ้าน ผมก็อยู่ในบ้านตลอด นอกจากมาทำงาน อย่าไปหาความสุขพิเศษ อยู่บ้านไม่ควรอึดอัด ถึงเวลาจะอยู่ก็ต้องอยู่ หนี้สินต่าง ๆ ก็ลองทำบัญชีว่าจะบริหารอย่างไร และอย่าให้ใครแสวงหาประโยชน์จากเงิน 5 พัน

ขอพรรคร่วมงดการเมือง

วันนี้ขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคหยุดการทำเพื่อการเมืองไปก่อน วันนี้เป็นเรื่องการบ้าน การบริหารราชการแผ่นดินที่ดูแลประชาชนคนไทย เพราะเราเป็นรัฐบาลทุกคนในประเทศ อีกฝ่ายก็กำลังโจมตีอยู่ ขอให้ฟังเหตุฟังผล บางทีพูดก็คล้อยตามได้ง่าย คิดว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะถ้ามารู้ว่าต้องทำอย่างไรตรงนี้ จะรู้ว่ายากแค่ไหน เสี่ยงอันตรายแค่ไหนที่มาใช้จ่ายงบประมาณเหล่านี้ ย้ำว่าจะต้องไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด ทุกคนจะช่วยกันตรวจสอบ ช่วยกันรักษาสิทธิของตัวเอง 5 พันก็ต้อง 5 พัน ไม่ใช่ให้สิทธิ 5 พัน ไปให้เขาเหลือสิทธิ 4 พัน หรือ 3 พัน ต้องขอโทษด้วยถ้าทุกคนไม่ได้รับโดยทั่วถึงกัน

ขอบคุณคนไทยยอมกักตัว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในบางสถานทูตในต่างประเทศ จะมีการขออนุมัติส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำ จากอินโดนีเซียกลับประเทศไทย ต้องหารือระหว่างการทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง ว่า เรามีมาตรการรองรับได้เพียงพอหรือไม่ เพราะทั้งหมดต้องเข้าสู่ state quarantine ทั้งหมด มีทั้งคนไทยอยากกลับ คนของประเทศเขาก็อยากกลับด้วย ต้องดูต้นทางกลางทางให้ครบถ้วน ต้องขอขอบคุณในช่วงที่ผ่านมาการเดินทางกลับของคนไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามหลักเกณฑ์ จำนวนที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับระบบที่ต่อเนื่องจากสนามบิน ขอบคุณพี่พ่อแม่ น้องทุกคนที่ยอมเข้าสู่การคัดกรอง state quarantine และ local quarantine

“ขณะนี้ให้สถานทูตไทย สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ หามาตรการดูแลคนไทยให้มีอาหารการกินอยู่ได้ ระหว่างนั้นรอเวลาเที่ยวบินกลับมาเพื่อเข้าสู่ระบบของเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

Cr. https://www.prachachat.net/politics/news-449896

หอยนางรม


Share