เมียโอดถูกหวย 12 ล้าน ผัวขึ้นเงิน-แบ่งให้ไม่กี่แสน ก่อนหายเงียบ เชื่อจงใจฮุบคนเดียว

เมียโอดถูกหวย 12 ล้าน ผัวขึ้นเงิน-แบ่งให้ไม่กี่แสน ก่อนหายเงียบ เชื่อจงใจฮุบคนเดียว

          เมียร้องขอทนายช่วย โอดถูกหวย 12 ล้าน ถูกผัวฉก-หนีเงียบ ชี้ได้ส่วนแบ่งแค่ไม่กี่แสน เชื่อจงใจฮุบไว้คนเดียว ฝ่ายผัวสวนกลับ ยันไม่ใช่หวยชุดที่เมียจ่ายเงิน ขอสร้างบ้านให้พ่อแม่ ก่อนบวชตลอดชีวิต

          วานนี้ (30 พฤษภาคม 2563) ข่าวช่องวัน รายงานว่า น.ส.ณัฐนันท์ สิริสุขธนานนท์ หรือ แอ๊ด อายุ 45 ปี ได้เข้าร้องเรียนต่อ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยติดตามเงินที่ได้จากการถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งได้รับเงินรางวัลจำนวน 12 ล้านบาท หลังถูกสามีนำไปขึ้นรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แล้วหนีหายไปโดยที่ตนติดต่อไม่ได้อีก
          โดย น.ส.ณัฐนันท์ เล่าด้วยความขมขื่นว่า ตนรู้จักกับสามีคือ นายวรายุ สุขสวัสดิ์ หรือแป๊ะ อายุ 51 ปี มาตั้งแต่ปี 2561 ตอนนั้นนายวรายุทำงานเป็นคนขับแท็กซี่ และตนได้ว่าจ้างแท็กซี่ให้ไปส่ง จากนั้นได้ติดต่อกันจนรักชอบและนายวรายุก็ย้ายมาอยู่กินกับตนเป็นสามีภรรยา ตนเลยให้เลิกขับแท็กซี่และมาช่วยขับรถให้ โดยตนจะให้เงินสามีใช้วันละ 500-1,000 บาท

          ที่ผ่านมาสามีก็ดูรักใคร่ตนดี กระทั่งตอนที่พวกตนได้ไปส่งสินค้าที่ จ.ราชบุรี ได้มีโอกาสแวะทำบุญที่วัดพระศรีอาน อ.โพธาราม ตอนนั้นสามีได้เช่าพระที่วัด และตนกับสามีก็แวะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีเลขลงท้ายด้วย 27 จำนวน 5 คู่ โดยตนเป็นคนควักเงิน 500 บาทจ่ายไป และให้สามีเก็บสลากไว้

          กระทั่งประกาศผลงวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 รางวัลที่ 1 หมายเลข 589227 ตนยุ่งอยู่กับงานเลยยังไม่ทราบ แต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ขณะไปงานบวชหลาน สามีก็มากระซิบว่าเขาถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ โดยไปขึ้นเงินมาแล้ว บอกว่าพวกตนจะไม่ลำบากแล้วและจะใช้หนี้ที่ตนกู้ธนาคารมาทำการค้าให้ โดยสามีเปิดมือถือโชว์แคชเชียร์เช็คเงินสด 11.94 ล้านบาทให้ดู ตนจึงขอถ่ายเก็บไว้ในมือถือตนเป็นหลักฐานด้วย

         ข้อมูลจากอมรินทร์ ทีวี ระบุเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากทั้งคู่นำแคชเชียร์เช็คไปขึ้นเงิน ก็ได้ถอนเงินสดมา 400,000 บาท โดยนำไปจ่ายค่าไฟแนนซ์เพื่อนำรถกระบะของ น.ส.ณัฐนันท์ ออกมา จำนวน 360,000 บาท ทำประกันรถยนต์ 15,000 บาท ติดแอร์บ้าน 13,000 บาท ฝ่ายสามียังให้เงินสดแก่ภรรยา 3,000 บาท จากนั้นก็ให้เงินเพิ่มอีก 300,000 บาท โดยที่ฝ่ายภรรยาไม่ได้เรียกร้อง เพราะมองว่าสามีมาอยู่ด้วยกัน ก็ต้องช่วยจ่ายหนี้อื่น ๆ และซื้อบ้านให้ตนเองอยู่

          แต่ต่อมาทั้งคู่ได้มีปากเสียงกัน เรื่องรถที่นำออกมาจากไฟแนนซ์ เพราะทางสามีอยากให้โอนเป็นชื่อตัวเอง แต่ น.ส.ณัฐนันท์ ยังไม่ได้โอนให้ จนฝ่ายสามีกลับต่างจังหวัดไปช่วยต้นเดือนมีนาคม และกลับมาอีกครั้งตอนปลายเดือน ก็อยู่กินกันตามปกติ แต่อยู่ ๆ สามีเกิดหายไปในวันที่ 6 พฤษภาคม ไม่สามารถติดต่อได้

          ทั้งนี้ พบว่าฝ่ายสามีได้บล็อกเบอร์โทรศัพท์ของ น.ส.ณัฐนันท์ หนีหายไปเลย ทำให้ น.ส.ณัฐนันท์ เชื่อว่าสามีต้องการเก็บเงินที่เหลือไว้โดยไม่แบ่ง จึงมาขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์

         ทางด้าน ทนายรณณรงค์ แนะนำให้ น.ส.ณัฐนันท์ รวบรวมหลักฐานภาพถ่ายการอยู่กันกินที่ผ่านมา และให้หาพยานมายืนยันว่าเป็นสามีภรรยากันจริง ซึ่งคดีนี้แม้จะไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสกัน แต่หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นสามีภรรยากันจริง ใช้เงินกระเป๋าเดียวกันจริง เงินที่ถูกรางวัลมาต้องแบ่งกันคนละครึ่งตามกฎหมาย

          ทั้งนี้ ต้องให้ฝ่ายภรรยาแจ้งความเอาผิดสามีก่อน ในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งตนมองว่าคดีนี้ไม่ยุ่งยากเพราะเป็นการถูกรางวัลจริง ไม่ใช่มาอ้างว่าใครเก็บหวยได้ โดยขอให้ทางภรรยานำหลักฐานมาให้เพิ่มเติม ตนจะช่วยพาไปแจ้งความกับทางตำรวจต่อไป

          อย่างไรก็ตาม ต่อมานายวรายุได้เผยว่า เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นไปตามที่ภรรยาพูด เพราะตนเป็นคนใช้เงินซื้อสลากที่ถูกรางวัลเอง และยืนยันว่าเป็นคนละชุดกับสลากที่ฝ่ายหญิงเป็นคนจ่ายเงิน หลังได้เงินรางวัลมาตนก็แบ่งให้อีกฝ่ายไปแล้วกว่า 700,000 บาท แต่ภรรยาของตนเป็นคนที่ใช้เงินเกินตัว ให้ไปเท่าไรก็ใช้หมด ทั้งที่ตัวเองรวยกว่าตนมาก ก่อนหน้านี้ตนเคยบอกเลขให้ภรรยาซื้อหวยใต้ดิน จนเจ้าตัวถูกหวยหลายงวดติดต่อกันรวมกว่า 4 ล้านบาท แต่ก็ไม่เคยแบ่งเงินให้ตนแม่แต่บาทเดียว ตนก็รู้สึกน้อยใจ

          ทั้งนี้ ตนตั้งใจว่าถ้าถูกหวยจะกลับมาสร้างบ้านให้พ่อแม่ และเลี้ยงดูลูก 2 คนที่เกิดจากภรรยาเก่า จึงเดินทางกลับบ้าน ขณะที่เรื่องหนี้สินก็เป็นเรื่องของอีกฝ่าย ไม่เกี่ยวกับตน ยืนยันว่าตนไม่ได้เกาะฝ่ายหญิงกิน ที่ผ่านมาก็ทำงานเหมือนเป็นขี้ข้าของอีกฝ่าย เคยทะเลาะกันมาก็หลายครั้ง เพราะภรรยาไล่ตน บอกว่าหมดบุญกันแล้ว ตนได้กลับบ้านมาตั้งแต่ปีใหม่แล้ว แต่เมื่อขาดคนทำงานภรรยาก็โทร. กลับมาตามตน

          นายวรายุยืนยัน ไม่กลัวว่าจะถูกฟ้องเพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ จากนี้หลังสร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่เสร็จก็จะขอบวชตลอดชีวิต ตามที่เคยตั้งใจไว้ว่าหากถูกรางวัลที่ 1 จะบวชให้

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน https://www.one31.net/news/detail/21565#.XtI8iUfX17o.twitter, อมรินทร์ ทีวี https://www.amarintv.com/news/detail/32911

หอยนางรม


Share