ลุงน้องชมพู่ พูดแล้ว หลังถูกชาวบ้านสงสัยฆ่าหลานตัวเอง

ลุงน้องชมพู่ พูดแล้ว หลังถูกชาวบ้านสงสัยฆ่าหลานตัวเอง

จากกรณีสะเทือนใจน้องชมพู่ หนูน้อยวัย 3 ขวบ ที่สูญหายจากบ้านที่ อ.ดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กิโลเมตร

ซึ่งผลชันสูตรจาก โรงพยาบาลตำรวจ พบบาดเเผลที่อวัยวะเพศ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง ด้านทีมข่าวไปพบเสื้อลายพรางถูกเผา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบรถแบกโฮของเล่น ประมาณ 200ม.

นอกจากนี้ ยังมีหมอธรรมออกมาทำนายจุดซ่อนหลักฐานมากมาย แต่ก็ยังหาไม่พบ ต่อมาทีมข่าวไปพบกุญแจรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ รุ่น 125x ผลิตปี พ.ศ.2550 ส่วนหลักฐานใหม่ล่าสุดที่พบในป่า ได้แก่ ปลอกมีดสีฟ้า และถุงเท้า 1 ข้าง

ล่าสุด วันที่ 2 มิถุนายน 63 เดินทางขึ้นภูเหล็กไฟอีกครั้ง โดยหลังการให้สัมภาษณ์ของนางสมพร (ป้าของน้องชมพู่) ตัดสินใจเดินขึ้นเขาเพื่อไปจุดพบศพเป็นครั้งแรกกับทีมข่าว โดยมีนายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่พร้อมกับชาวบ้าน จนท.อุทยานแห่งชาติภูผายล เดินขึ้นเขาไปกับทีมข่าว เพื่อไปที่จุดพบศพและไปดูตามขอนไม้ ในจุดที่คาดว่า คนร้ายอาจจะซ่อนเสื้อน้องชมพู่ไว้ หลังจากที่ชาวบ้านได้ยินเสียงหลังจากจุดธูปกำยานเมื่อวานนี้

ซึ่งทีมข่าวเดินทางขึ้นทางป่ายาง มุ่งหน้าจุดที่พบศพน้องชมพู่ โดยหลังออกเดินทางไปได้ครู่หนึ่ง นางสมพร (ป้าของชมพู่) ได้จุดธูปกำยาน 16 ดอก ที่กลางป่า มีการกล่าวเอ่ยชื่อตัวเองบอกกับเจ้าป่าเจ้าเขา ให้เปิดทางเปิดป่า โดยบอกว่าวันนี้ในฐานะป้า จะมาตามหาน้องชมพู่

หลังจากนั้น ทีมข่าวเดินทางต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็มีการหาเสื้อและหลักฐานต่างๆแต่ก็ยังไม่พบ โดยระหว่างทาง ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายไชย์พล วิภา (ลุงของชมพู่) ระบุว่า ตนมาหาน้องชมพู่บ้าง ซึ่งก็อยากจะพบเสื้อของน้อง อยากจะเจอหลักฐาน แต่หลังจากติดตามข่าวก็ยอมรับว่าเวลาเห็นว่าเจอหลักฐานใหม่ๆ ก็มีความแปลกอยู่ว่า การวางหลักฐานของคนร้ายที่เรียงกันเป็นจุดๆ เหมือนกับนิสัยของนายพรานหรือไม่

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า บางครั้งที่ตำรวจเรียกไปสอบก็เครียดบ้าง เพราะตำรวจก็ถามซ้ำไป ซ้ำมา ส่วนใครจะสงสัยว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุก็ไปห้ามไม่ได้ เพราะทุกคนก็มีสิทธิ์สงสัยได้ หลังจากนี้ หากจนท.ตำรวจทำงานเสร็จแล้วความจริงจะปรากฏออกมาเอง พร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า เพราะเวลานึกถึงหน้าหลาน ก็จะมีน้ำตาไหลอยู่ตลอดทุกวัน นึกถึงเวลาชมพู่ไปอยู่ด้วย คิดถึงเพราะความผูกพันธ์

อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า ไม่ใช่คนก่อเหตุ ตนรักน้องชมพู่ เอ็นดูน้องมาก หากสมมติว่า พ่อแม่เขาไม่เลี้ยง ตนก็สามารถรับขอเป็นลูกได้เลย ซึ่งภรรยาของตนก็อยากได้ลูกสาวอยู่แล้ว ตนขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยไม่ได้จับแพะ

สำหรับไทม์ไลน์บุคคลเจอศพน้องชมพู่ ในวันที่ 14 พฤษภาคม 63 เวลา 17.30 น. นายสมบัติและนางตุ่น ซึ่งเป็นชาวบ้านพบรองเท้าของเด็กบนเขา จึงรีบแจ้งชาวบ้านให้มาค้นหาศพเด็ก ในเวลาต่อมา 18.30 น. นายสมบัติและนายไชย์พล ลุงของน้องชมพู่ พบศพหลานสาวเสียชีวิต กระทั่งเวลา 18.45 น. จนท.วิทยุแจ้งข่าวพ่อแม่ว่าน้องชมพู่เสียชีวิตแล้ว

หอยนางรม


Share