เปิดรายละเอียด 2 กลุ่มที่ได้รับเงิน 15,000 กลางเดือนสิงหาคมนี้

เปิดรายละเอียด 2 กลุ่มที่ได้รับเงิน 15,000 กลางเดือนสิงหาคมนี้

สำหรับผู้ประกันตนม.33 กว่า 60,000 หมื่นราย ที่เข้าข่ายว่างงานตามเงื่อนไขคณะรัฐมนตรีกำลังจะได้รับเงินชดเชยรายได้ จำนวน 5,000 บาท เวลา 3 เดือน รวมเป็น 15,000 บาท

เงื่อนไขมีดังนี้…

1 ต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 คือ ลูกจ้างที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปี และทำงานในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป หรือเรียกง่ายๆว่าเป็น พนักงานเอกชน

2 ผู้ประกันมาตรา 33 ดังกล่าวจะต้องเพิ่งว่างงานและจ่ๅยเงินสมทบประกันสังคมไม่ถึง 6 เดือน ภายในเวลา 15 เดือนย้อนหลัง ทำให้ไม่เข้าเงื่อนไขการรับเงินทดแทนระหว่างว่างงานจๅกกองทุนประกันสังคม

นอกจากนี้ ยังไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยcovid-19 ในสัดส่วน 62เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างรายวัน และไม่เคยได้รับเงินเยียวยาจากโครงการอื่นๆ ของภาครัฐ เช่น โครงการเราไม่ทิ้งกัน , โครงการเยียวยากลุ่มเปราะบาง เป็นต้น

ทางด้าน นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ รองเลขาธิการ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษก (สปส.) เปิดถึงความคืบหน้าของโครงการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวให้ ประกันสังคมม.33 กับPPTV ออนไลน์ว่า ลูกจ้างที่มีสิทธิ์รับเงินชดเชยรายได้ 15,000 บาทจำนวนเกือบ 60,000 คน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ยืนยันว่า ขณะนี้มีข้อมูลและจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ที่แน่ชัดแล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่ม

สาเหตุเกิดจากสำนักงานประกันสังคมได้คัดแยกรายชื่อออกมาแล้ว โดยคัดกรองจากกิจการที่มาขึ้นทะเบียนรับรองขอเงินชดเชยให้ลูกจ้างก่อนนี้ แต่ก็มีผู้ประกันตนบางส่วน ซึ่งเป็นส่วนน้อย ที่มีข้อมูลไ ม่ครบถ้วน ทางสำนักงานประกันสังคมก็จะติดต่อขอข้อมูลกลับไป

โดยเงิน 15000 บาท จะโอนเข้าบัญชีผู้ประกันตนได้ ไม่เกินกลางเดือนสิงหาคม 2563 สอดคล้องกับที่ นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลัง ให้สัมภาณ์ไว้ก่อนหน้านี้

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ทั่วไปที่ส่งเงินสมทบมากกว่า 6 เดือน สามารถรับเงินทดแทนกรณีว่างงานได้ตามปกติ

โดยล่าสุดรัฐบาลได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ทดแทนระหว่างว่างงานแก่ประกันสังคมมาตรา 33 ในกรณีที่ถูกเลิกจ้าง ลาออก หรือสิ้นสุดระยะเวลาการจ้าง เป็นระยะเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 63 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 65 เพื่อรองรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น

1.ผู้ประกันตนถูกเลิกจ้าง

ผู้ประกันตนจะได้รับเงินว่างงานในอัตรา 70เปอร์เซ็นต์ ของค่าจ้างรายวัน โดยได้รับไ ม่เกิน 200 วัน ภายในระยะเวลา 1 ปีปฏิทิน จากเดิมจะได้รับเงินทดแทนระหว่างว่างเงินกรณีถูกเลิกจ้างในอัตรา 50เปอร์เซ็นต์ ของค่าจ้างเฉลี่ย ปีละไม่เกิน 180 วัน

2.ผู้ประกันตนลาออก หรือสิ้นสุดระยะเวลาการจ้าง

ผู้ประกันตนจะได้รับเงินว่างงานในอัตรา 45เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างรายวัน โดยได้รับไม่เกิน 90 วัน ภายในระยะเวลา 1 ปีปฏิทิน จากเดิมจะได้รับเงินทดแทนระหว่างว่างงานกรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญา 30เปอร์เซ็นต์ ของค่าจ้างเฉลี่ย ปีละไม่เกิน 90 วัน

สำหรับกรณีที่ ประกันสังคมมาตรา 33 ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเพราะเห ตุตามข้อ 1 หรือเหตุตามข้อ 1 และ 2 เกินหนึ่งครั้งภายในระยะเวลา 1 ปีปฏิทิน ให้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานทุกครั้งรวมกันไ ม่เกิน 200 วัน

แต่ในกรณีขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเห ตุตามข้อ 2 เกินหนึ่งครั้งภายในระยะเวลา 1 ปีปฏิทิน ให้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานทุกครั้งรวมกันไ ม่เกิน 90 วัน

สำหรับผู้ประกันตนมาตราอื่นได้แก่ มาตรา 39 จำนวน 1.7 ล้านราย และมาตรา 40 จำนวน 3.4 ล้านราย แม้จะไ ม่ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเหมือนมาตรา 33 แต่ก็จะได้สิทธิประโยชน์ด้านอื่นๆ แทน ดังนี้

ผู้ประกันตนมาตรา 39 คือ

ผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อน และนำส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน โดยออกจากงานไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลาออกจากงาน ปัจจุบันมีผู้ประกันตนในระบบจำนวน 1,737,744 คน

โดยผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี ดังนี้ ทุพพลภาพ สงเคราะห์บุตร และชราภาพ

ผู้ประกันตนมาตรา 40 คือ

บุคคลทั่วไปที่มีอายุไ ม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ ทำอาชีพอิสระ ไม่มีนายจ้าง มีผู้ประกันตนในระบบจำนวน 3,374,151 คนโดยผู้ประกันคนมาตรา 40 จะได้รับความคุ้มครอง 3,4,5 ขึ้นอยู่กับทางเลือก ดังนี้ เงิน ทดแทนการขาดรายได้ ทุพพลภาพ ชราภาพ (บำเหน็จ) สงเคราะห์

หอยนางรม


Share